Physical Address
304 North Cardinal St.
Dorchester Center, MA 02124
นับตั้งแต่ยุคที่ Manchester City ถูก Take Over โดยอดีตรัฐมนตรีของประเทศไทยอย่าง “พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ก็ถือเป็นยุคเปิดศักราชใหม่ของทีม ด้วยการซื้อนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาในทีมมากมาย ทำให้ทีมขยับจากอันดับที่อยู่ส่วนล่างของตาราง ขยับขึ้นมาส่วนบนของตารางได้ และก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญที่ทาง ทักษิณ ได้ทำการขายทีมต่อให้ ชีคมันชู หรือ Mansour bin Zayed Al Nahyan พร้อมกับการทุ่มซื้อ Star เข้ามาในทีมอย่างมากมาย พร้อมกับผู้จัดการทีมฝีมือฉมัง ทำให้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอย่าง English Premier League ได้มากถึง 4 สมัย วันนี้เราเลยอยากจะมาพูดถึงอดีตกุนซือตั้งแต่ยุคเปลี่ยนผ่านทีมในช่วง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ไปจนถึงปัจจุบันว่ามีใครบ้าง และตอนนี้พวกเขาทำอะไรกันอยู่
1. Sven-Göran Eriksson
จอมแทคติตจากประเทศสวีเดน ที่ประสพการณ์การคุมทีมนั้นต้องบอกว่าโชกโชนเลยหละ มีประสพการณ์มากมายตั้งแต่การคุมทีมชั้นนำอย่าง Benfica, Roma, Lazio, Fiorentina, Samdoria หรือทีมชาติอังกฤษ มาจนถึง Manchester City ซึ่งแน่นอนด้วยการที่เขาคุมทีมในอิตาลี่มามากมายจึงได้ซึมซับศาสตร์ลูกหนังของอิตาลี่มามาก การวางแผนของกุนซือคนนีจะเน้นการเล่นรับที่มีวินัยตามแทคติคและโต้กลับด้วยปีกสปีดสูง ๆ เป็นหลัก แน่นอนว่าหลังจากไม่ประสบความสำเร็จนานวันเข้าผสมกับแผนการเล่นที่ดูน่าเบื่อ ก็เลยทำให้เขาต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไป ต่อจากนั้นเขาก็เรียกว่าคุมทีมต่อเป็นว่าเล่นทั้งการคุมทีมชาติ Mexico, Ivory Coast การกลับมารับงานในอังกฤษ กับทีมจิ้งจอกสยาม Leicester City ก่อนที่จะไปขุดทองในประเทศจีนกับทีม Guangzhou R&F และ Shanghai SIPG ส่วนล่าสุดเขากำลังคุมทีมชาติ Philippines ซึ่งแน่นอนแฟนบอลไทยคงต้องเคยเห็นฝีไม้ลายมือมาบ้างแหละ และอ๊ะ พี่แกเคยเป็นประธานฝ่ายเทคนิคทีมดังในไทยลีก อย่าง BEC Tero ด้วยนะ !!
2. Mark Hughes
อีกหนึ่งกองหน้าระดับตำนานของทีมอย่าง Manchester United ที่เรารู้จักกันในฉายา “Sparky” หลังจากปิดตำนานการค้าแข้งกับ Blackburn Rover ก็เริ่มการคุมทีมกับทีมชาติ Wales และก้าวขึ้่นมาคุมทีม Blackburn Rover ก่อนที่ผลงานการคุมทีมจะไปเข้าตาทีม Manchester City และดึเข้ามาคุมทีมต่อจาก Sven-Göran Eriksson โดยตัว Mark Hughes นอกจากเป็นกุนซือที่ทำทีมเกมรุกที่่สนุกแล้วนั้น ยังตาถึงสามารถดึงผู้เล่นชั้นนำมาได้หลายคนตั้งแต่สมัยคุมทีม Blackburn Rover แล้ว ซึ่งในการคุมทีม Manchester City เขาก็ดึงผู้เล่นชั้นดีเข้ามามากมาย โดยที่เป็นตำนานพาทีมความแชมป์มากมาย ได้แก่ Pablo Zabaleta, Vincent Kompany เป็นต้น ก่อนที่การคุมทีมจะได้แชมป์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เลยต้องลาจากทีมออกไป และได้เข้าคุมทีม Fullham, Queen Park Ranger ซึ่งก็คุมทีมได้ไม่นาน จนมาถึงการคุมทีม “ช่างปั้นหม้อ” อย่าง Stoke City ที่คุมได้นาน 5 ปีก่อนเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมตกชั้น และล่าสุดก็โดน Southampton ปลดออกจากการเป็นผู้จัดการทีมหลังคุมได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น
3. Roberto Mancini
กุนซือชาวอิตาลี่ ที่มาพร้อมกับมาดอันเคร่งครึม และสมัยเป็นนักเตะยังเป็นนักเตะระดับตำนานของ Sampdoria อีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นกุนซือคนแรกที่สามารถพาทีม Manchester City เปิดศักราชใหม่ของตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ English Premier League ครั้งแรกแบบปาฏิหารย์ให้กับทีม ชนิดแย่งเข้าป้ายในนาทีสุดท้ายเลยทีเดียว ซึ่ง Roberto Mancini เริ่มการคุมทีมกับทีมในอิตาลี่อย่าง Fiorentina และ Lazio ก่อนที่จะมาสร้างชื่อกับ Inter Milan และถูก Manchester City ดึงตัวเข้ามากุมบังเหียน ซึ่งตัวกุนซือนอกจากมีจุดเด่นในด้านการคุมทีมด้วยแทคติคที่ซับซ้อนและเป็นระบบแล้ว ยังซื้อนักเตะที่ยังเป็นแกนกลางสำคัญมาจนถึงฤดูกาลล่าสุดอย่าง Sergio Agüero, David Silva เข้ามา และตัวดาวดังที่พาทีมคว้าแชมป์อย่าง YaYa Toure เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคนสร้างแกนหลักสำคัญให้กับทีม ก่อนที่จะออกจากตำแหน่งไป พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ 1 Premier Leauge และ 1 Fa Cup ล่าสุด Roberto Mancini ก็กำลังพาทีมชาติของตัวอย่าง Italy เดินหน้าหาความสำเร็จอยู่นั่นเอง
4.Manuel Pellegrini
หลังจากที่ Manchester ต้องการมองหาโค๊ซ Style เล่นบอลสวยงามเกมรุก จึงได้เลือกโค๊ซที่กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ กับ Málaga ในยุคนั้น อย่าง Manuel Pellegrini เข้ามากุมบังเหียน โดยเป็นกุนซือที่มีความโดดเด่นในการคุมทีมด้วยการเล่นบอลเกมรุกที่บุกสุดมัน และเน้นบอลเท้าต่อเท้า พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ได้ 1 Premier Leauge และ 2 League Cup ก่อนต้องหลีกทางให้กับ Pep Guadiola นั่นเอง
5. Pep Guadiola
ยอดกุนซือหนุ่มที่ผลงานโดดเด่น ทั้งในการคุมทีมกับ Barcelona และ Bayern Munich ถูกดึงเข้ามาแทนที่ Manuel Pellegrini เพื่อการันตีความสำเร็จ โดยพาทีม Manchester City ให้เป็นทีมที่แกร่งขึ้นในอีกระดับ ด้วยการใช้แผนการเล่นแบบ Pressing และการเล่นบอลเท้าต่อเท้า สามารถพาทีมได้แชมป์ 2 Premier Leauge, Fa Cup และ 2 League Cup และที่สำคัญยังไม่หยุดพาทีมไล่ล่าความสำเร็จอีกด้วย