ดาบิด ซิลบา จอมทัพระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ถ้าจะพูดว่านักเตะคนไหนในชุดนี้ที่จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ให้กับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ละก็ เราเชื่อว่าจะต้องมีชื่อของ ดาบิด ซิลบา ติดโผเข้ามาแน่ๆ เพราะด้วยฟอร์มการเล่นระดับสูงที่ยอดเยี่ยมและคงเส้นคงวาเกือบ 10 ปีที่เล่นให้กับทีมเรือใบสีฟ้า คงปฏิเสธไม่ได้นักว่านี่คืออีกคนที่เหมาสมกับการเป็นตำนานของสโมสร ดังนั้นวันนี้เราต้องไปรู้จักกับเค้าอีกมากขึ้นไปอีกกันเถอะ

ดาบิด ซิลบา (David Silva) เป็นนักฟุตบอลทีมชาติสเปน ปัจจุบันอายุ 33 ปี เล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลางและมิดฟิลด์ตัวรุก สวมใส่เสื้อ หมายเลข 21 มีจุดเด่นในการเล่นทักษะการเล่นที่สูง,ความคล่องตัวที่มาก และยังส่งบอลได้อย่างแม่นยำ จนเพื่อนๆให้ฉายาเค้าว่า Merlin หรือ El Mago กันเลย

เริ่มต้นฝึกหัดฟุตบอลกับสโมสร UD San Fernando ในตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่เหมือนว่าเค้าจะไม่ชอบมันมากนัก และตัวเค้าเองต้องการเป็นเหมือนนักเตะในดวงใจของเค้าอย่าง ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป มิดฟิลด์อัจฉริยะจากเดนมาร์คมากกว่า และด้วยการฝึกหนักของเค้าก็ได้ไปเตะตากับทีมสโมสรบาเลนเซีย จนได้

หลังจากอยู่ฝึกกับสโมสรบาเลนเซียในทีมชุดเยาวชน อยู่หลายปี ก็ได้มีโอกาศไปโชว์ฝีเท้ากับทีม เออิบาร์ ในศึก Segunda La Liga ซึ่งตัวเค้าก็โชว์ฟอร์มได้ดี และได้ถูกปล่อยตัวอีกครั้งให้กับทีม เซลต้าบีโก้ เพื่อเสริมสร้างประสพการณ์ในการเล่นให้กับเค้า ก่อนที่ในปี 2006 เค้าจะถูกดึงตัวกลับมาทีมชุดใหญ่ของ บาเลนเซีย และโชว์ฟอร์มสุดโหดกับ คู่หูของเค้านั่นคือ ดาบิด บีย่า ก่อนที่ทั้งคู่จะต้องแยกออกจากกันในปี 2010 โดย ดาบิด ซิลบา ไปค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ดาบิด บีย่า ที่ได้ไปโชว์เพลงแข้งให้กับทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า

ดาบิด ซิลบา จอมทัพระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ดาบิด ซิลบา

ในฤดูกาล 2010/2011 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของ ตัวผู้จัดการทีมของอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้พยายามปรับการเล่นของ ซิลบา จากกองกลางตัวรุกสู่การเล่นในตำแหน่งปีก ซึ่งเหมือนจะให้ผลการเล่นที่ดีขึ้น ด้วยพื้นที่การเล่นที่มากขึ้น ทำให้เค้าโชว์ฟอร์มด้วยการยิง 6 ประตู และ 14 แอสซิสต์ ได้ในฤดูกาลแรก

ในฤดูกาล 2011/2012 เป็นเหมือนการเปิดตำนานของตัวเค้าเอง เมื่อทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้มีการเซนกองหน้าคนใหม่ที่จะมาเป็นคู่หูของเค้า นั้นคือ เซร์คิโอ อเกวโร่ เข้ามา และเรียกว่าฟอร์มของเค้าก็ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่ ด้วยผลงาน 8 ประตู 21 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ แชมป์พรีเมียร์ครั้งแรกที่รอคอยได้สำเร็จ และ ดาบิด ซิลบา ยังได้รางวัล นักเตะยอดเยี่ยมของ PFA อีกด้วย

ในฤดูกาล 2012/2013 ถือเป็นปีที่ไม่ดีนัก เมื่อมีอาการบาดเจ็บมาจากการรับใช้ทีมชาติสเปน ทำให้ปีนี้ ซิลบายิงได้แค่ 5 ประตู และ 13 แอสซิสต์ เท่านั้น

ฤดูกาล 2013/2014 ฟอร์มของตัว ดาบิด ซิลบา เริ่มกลับมาดีอีกครั้ง พร้อมกับการมาของโค๊ชคนใหม่อย่าง มานูเอล เปเยกรินี่ ทำให้ตัวเค้าก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์สมัยที่สองด้วยผลงาน 8 ประตู และ 16 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2014/2015 ด้วยการใช้กุนซือที่เน้นเกมรุกอย่าง มานูเอล เปเยกรินี่ ทำให้การปรับตำแหน่งไปเล่นเกมรุกมากขึ้่น ช่วยให้เค้ามีผลงานในการยิงประตูที่โดดเด่นที่สุดจากหลายฤดูกาล ด้วยฟอร์มการเล่น 12 ประตู และ 14 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2015/2016 เป็นฤดูกาลสุดท้ายที่เขาได้ร่วมงานกับ มานูเอล เปเยกรินี่ เพราะด้วยผลงานของตัวโค้ชเองที่ไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้ผลงานของทีมและฟอร์มการเล่นของนักเตะตกลงไปบ้าง ในฤดูกาลนี้เค้าทำได้ 4 ประตู และ 12 แอสซิสต์ เรียกว่าฟอร์มแย่ที่สุดตั้งแต่เค้าย้ายเข้ามาเลย

ฤดูกาล 2016/2017 ทีมเริ่มมีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นจากการที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ย้ายเข้ามาคุมทีมในฤดูกาลนี้ พร้อมกับมีการพยายามปรับ ดาบิด ซิลบา ลงไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เนื่องด้วยอายุและประสพการณ์ของเค้าที่มากขึ้น ทำให้ฟอร์มการเล่นของเค้าดีขึ้น ด้วยผลงาน 8 ประตู 11 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2017/2018 เป็นฤดูกาลแรกที่ได้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างเต็มตัว เค้าแทบจะเป็นตัวเลือกแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลยในตำแหน่งนี้ และเค้าก็โชว์ฟอร์มได้แบบไม่ทำให้ใครผิดหวัง ด้วยสถิติ 10 ประตูและ 14 แอสซิสต์ พร้อมกับแชม์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 3

ฤดูกาล 2018/2019 เรียกว่าเป็นฤดูกาลระเบิดฟอร์มของเค้าเลยก็ว่าได้ กับการจับคู่กับ แบร์นาโด้ ซิลวา กลายเป็น Tag Team “Double Silva” พร้อมโชว์สถิติที่ดีต่อเนื่องด้วย  ด้วยสถิติ 10 ประตูและ 14 แอสซิสต์ พร้อมกับแชม์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4