ผลงานในพรีเมียร์ลีก ของแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 10 ปีหลังสุด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ที่สามารถคว้าแชมป์ในประเทศครบทั้ง 4 รายการในปีเดียว คือพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ นอกจากนั้นแล้ว นี่ยังถือเป็นครั้งแรก ที่ทีมเรือใบสีฟ้าสามารถป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ หลังจากเมื่อปี 2018 ก็เอาชนะ เชลซี 2-0

ศึกพรีเมียร์ลีกจะเปิดฤดูกาลขึ้นในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ว่าแล้วเราก็ขอพาแฟนบอลไปย้อนดูแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 10 ปีหลังสุด ว่าหลังได้โล่การกุศลแล้ว พวกเขาทำผลงานเป็นยังไง เมื่อฤดูกาลเปิดฉากขึ้นจริง ๆ

ผลงานในพรีเมียร์ลีก ของแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 10 ปีหลังสุด

2009 : เชลซี
ผลงานในลีกฤดูกาล 2009-10 : แชมป์
คาร์โล อันเชลอตติ ประเดิมโทรฟี่แรกในอังกฤษ ด้วยการดวลจุดโทษดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปให้ เรอัล มาดริด ก่อนคว้าโล่การกุศลไปครอง

ไม่เพียงแต่ เชลซี จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเท่านั้น พวกเขายังได้ฉลองถ้วย เอฟเอ คัพ อีก 1 รายการ ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจมาก แม้จะจอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม

2010 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในลีกฤดูกาล 2010-11 : แชมป์
เชลซี ได้ดับเบิลแชมป์อังกฤษ ฤดูกาล 2009-10 ทำให้ทีมปีศาจแดงได้ลงเตะ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในฐานะรองแชมป์ลีก และเอาชนะทีมสิงห์บลูส์ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมการแจ้งเกิดของ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ

ชิชาริโต้ กลายเป็นอาวุธเด็ดพาผีแดงทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกคืนได้ทันที พร้อมทำสถิติได้แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัยแซงหน้า ลิเวอร์พูล จนได้ ขณะที่ผลงานในรายการอื่นก็น่าพอใจ เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ และผ่านเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

2011 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในลีกฤดูกาล 2011-12 : รองแชมป์
ศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 2011 คือเกมที่มันส์ที่สุดนัดหนึ่ง เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์จากตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ถึง 2 ลูก กลับมาแซงชนะ 3-2 หน้าตาเฉย

แต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาคืนอย่างเจ็บแสบในการลุ้นแชมป์ลีกซีซั่น 2011-12 เพราะพลิกสถานการณ์จากตามหลังทีมปีศาจแดง 8 แต้ม กลายเป็นแซงเข้าป้ายคว้าแชมป์ในนัดสุดท้าย ด้วยผลต่างประตูได้เสีย ซึ่งความพีคอยู่ที่ ในเกมนัดปิดฤดูกาล กว่าทีมเรือใบสีฟ้าจะได้ประตูชัย ต้องรอจนถึงช่วงทดเจ็บแทบจะนาทีสุดท้ายจาก เซร์คิโอ อเกวโร่

2012 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงานในลีกฤดูกาล 2012-13 : รองแชมป์
ทีมเรือใบสีฟ้าได้แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็นครั้งแรกในยุคของพรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้น พวกเขาทำผลงานในลีกตกลงไปเยอะ จนโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ทวงแชมป์คืนไป ด้วยการทำแต้มทิ้งห่างถึง 11 แต้ม และทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาอาชีพกุนซือไปอย่างสง่างาม

นั่นถือเป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือผู้พาเรือใบสีฟ้าได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก เพราะในซีซั่น 2012-13 พวกเขาชวดแชมป์ทุกรายการ โดยนัดชิง เอฟเอ คัพ ก็โดน วีแกน เอาชนะในนาทีสุดท้ายของเกมแบบพลิกล็อค 1-0 นั่นทำให้ มันชินี่ ต้องโดนปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม

2013 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในลีกฤดูกาล 2013-14 : อันดับ 7
เดวิด มอยส์ ผู้เข้ามาคุมทีมปีศาจแดงแทน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถประเดิมงานใหม่ด้วยแชมป์โล่การกุศลทันที แต่นั่นก็แทบเป็นช่วงเวลาดีๆ เพียงอย่างเดียวของเขา ในการคุมทีมในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะพอฤดูกาลแข่งขันจริงเริ่มขึ้น มอยส์ ทำให้ทีมปีศาจแดงทำอันดับได้แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก จนไม่สามารถได้เล่นในฟุตบอลยุโรปเลยสักรายการ

2014 : อาร์เซน่อล
ผลงานในลีกฤดูกาล 2014-15 : อันดับ 3
ในปี 2014 อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นความสำเร็จรายการแรกในรอบ 9 ปี ก่อนจะต่อยอดด้วยการถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยับเยิน 3-0 คว้าโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก่อนเปิดซีซั่นใหม่อีกรายการ ฤดูกาล 2014-15 ทีมปืนใหญ่ สามารถป้องกันแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้อีกครั้ง และรักษาอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ จึงถือเป็นผลงานที่น่าพอใจทีเดียว

2015 : อาร์เซน่อล
ผลงานในลีกฤดูกาล 2015-16 : รองแชมป์
ทีมปืนใหญ่ป้องกันทั้งแชมป์บอลถ้วย และโล่การกุศล ก่อนจะทำอันดับในลีกได้สูงที่สุดในรอบ 11 ปี เมื่อเข้าป้ายอันดับ 2 ในฤดูกาลที่บรรดาทีมใหญ่ทำผลงานดร็อปลงกันหมด แต่ความเซอร์ไพรส์อยู่ที่ ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16 ไม่ใช่ทีมในกลุ่ม “บิ๊กซิกซ์” แต่กลับเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สร้างปาฏิหาริย์ โผล่จากทีมเต็งตกชั้น คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกแบบไม่มีใครคาดคิด

2016 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในลีกฤดูกาล 2016-17 : อันดับ 6
หลุยส์ ฟาน กัล ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะไม่สามารถพาทีมไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่อย่างน้อยเขายังพาผีแดงได้ถ้วย เอฟเอ คัพ ทิ้งท้าย นั่นทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เข้ามาแทน ได้โอกาสคว้าแชมป์ประเดิมงานใหม่ทันที และเขาก็ทำได้ด้วยการพาทีมดับ เลสเตอร์ 2-1

ฤดูกาล 2016-17 ทีมปีศาจแดงทำผลงานในลีกไม่ดีนัก เมื่อได้แค่อันดับ 6 แต่ผลงานในรายการอื่นๆ กลับยอดเยี่ยม เมื่อได้ทั้งแชมป์ ลีก คัพ และ ยูโรปา ลีก ซึ่งรายการหลัง ยังส่งผลให้พวกเขาได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

2017 : อาร์เซน่อล
ผลงานในลีกฤดูกาล 2017-18 : อันดับ 6
อาร์แซน เวนเกอร์ พาทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้อีกครั้งในปี 2017 ก่อนจะพาทีมดวลจุดโทษชนะ เชลซี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ คว้าโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็นความสำเร็จสุดท้ายในการคุม อาร์เซน่อล

แต่ในฤดูกาล 2017-18 ทีมปืนใหญ่ทำอันดับในพรีเมียร์ลีกได้แย่ที่สุดในยุคของเวนเกอร์ และไม่ได้แชมป์รายการใดๆ อีกเลย ส่งผลให้เขาประกาศอำลาตำแหน่งหลังจบฤดูกาล แล้วเปิดทางให้ อูไน เอเมรี่ เข้ามาแทน

2018 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงานในลีกฤดูกาล 2018-19 : แชมป์

ฤดูกาล 2017-18 แมนฯ ซิตี้ สร้างสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก ด้วยการเป็นทีมแรกที่กวาดไปถึง 100 แต้ม และคว้าแชมป์แบบทิ้งห่างคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น พวกเขาจึงได้กลับมาชิงโล่การกุศลอีกครั้งในรอบ 4 ปี พบกับ เชลซี ที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ และเปลี่ยนกุนซือเป็น เมาริซิโอ ซาร์รี่

เซร์คิโอ อเกวโร่ เหมาสองประตูให้เรือใบสีฟ้าได้โล่ไปครอง ก่อนที่ เป๊ป จะกลายเป็นกุนซือคนแรกในรอบ 10 ปีที่คุมทีมป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ โดยกวาดไปถึง 98 แต้ม ซึ่งเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ที่ตามไล่บี้ตลอดซีซั่นเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้นแล้ว การที่ เป๊ป พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ยังถือเป็นการหยุดอาถรรพ์ 8 ปี ที่ทีมที่ได้แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ จะชวดแชมป์ลีกลงได้อีกด้วย